โรคกระเพาะ - กรดไหลย้อน
3 สิ่งที่ควรทำเมื่อเป็นกรดไหลย้อน...ไม่หายสักที
การรักษากรดไหลย้อนแล้วไม่หายนั้น เป็นเรื่องที่พบเจอได้บ่อยๆ ท่านควรวจะพบแพทย์ที่มีความชำนาญ เพราะมีปัจจัยมากมายมาเกี่ยวข้อง บทความนี้จะกล่าวถึง 3สิ่งที่ท่านควรพิจารณาเมื่อท่านเป็นกรดไหลย้อนไม่หายสักที
1.ถามตัวเองก่อนว่ามันใช่กรดไหลย้อนจริงไหม?
การวินิจฉัยนั้นเป็นเรื่องที่ต้องเอาใจใส่ในรายละเอียด มีโรคมากมายที่ผู้ป่วยมาด้วยอาการคล้ายกรดไหลย้อน ในครั้งนี้ขอแนะนำ 3 โรค ที่น่าสนใจดังนี้
โรคกระเพาะ-กรดไหลย้อน
ผู้ป่วยจะมาด้วยอาการจุกแน่นใต้ลิ้นปี่ บางครั้งมีอาการแสบร้อน ปวดร้าวทะลุกลางหลัง จุดสำคัญ คืออาการมักจะสัมพันธ์กับการกิน มักจะมีอาการหลังทานอาหาร โดยเฉพาะเวลากินของเผ็ดๆ หรือ เวลาที่ท้องว่าง เช่น เวลาก่อนนอน และอาการปวดมักจะเป็นๆหายๆไม่เกินครั้งละครึ่งชั่วโมง
นิ่วในถุงน้ำดี
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดใต้ชายโครงขวา ปวดบีบๆแน่นๆ ปวดร้าวไปสะบักขวา มักมีอาการปวดยาวนานเป็นชั่วโมง จากนั้นอาการจะค่อยๆดีขึ้น จุดสำคัญ คืออาการมักจะสัมพันธ์กับการกินของมัน หรือ อาหารมื้อใหญ่ๆ ในบางกรณีที่ประวัติไม่ชัดเจนอาจต้องตรวจเพิ่มเติมโดยการทำอัลตราซาวด์
หัวใจขาดเลือดระยะแรก
มีผู้ป่วยหลายท่าน พอมีอาการเจ็บหน้าอก ก็มักจะกังวลว่าเป็นโรคหัวใจ เพราะมีอาการจุกแน่น บริเวณหน้าอกได้เช่นเดียวกัน แต่ลักษณะการปวด จะปวดเหมือนมีอะไรมากดทับหน้าอก ร้าวไปไหล่ซ้าย/กรามซ้าย จุดสำคัญ คือ จะมีอาการมากขึ้นเวลาออกแรง และ อาการจะไม่สัมพันธ์กับการกินอาหาร
ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นโรคหัวใจระยะแรก หากไปตรวจที่โรงพยาบาลและตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจก็จะพบว่า ผลยังปกติ หากต้องการยืนยันการวินิจฉัยจริงอาจจะต้องพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจเพิ่มเติมอีกครั้ง
2.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อลดสาเหตุการเกิดอาการซ้ำ
หลังจากที่ท่านมั่นใจแล้วว่าเป็นกรดไหลย้อนจริง ก็ต้องมามองหาสาเหตุของโรค หลายครั้งผู้ป่วยพึ่งพาแต่ยา ไม่ได้พยายามแก้ไขที่สาเหตุเลย ทำให้รักษาได้ยาก การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจะช่วยให้อาการที่เป็นอยู่ดีขึ้น
ทานอาหารอ่อน งดอาหารเผ็ด เลี่ยงของมัน เช่น ของทอด, เครื่องในสัตว์, กุ้ง หอย ปู
ไม่ควรดื่ม ชา กาแฟ น้ำอัดลม นมสด นมเปรี้ยว
เลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดก๊าซ เช่น พืชตระกูลถั่ว, หัวหอม, กะหล่ำปลี
หยุดการใช้ยาแก้ปวดที่มีฤทธิ์กัดกระเพาะอาหาร
ทานอาหารให้ตรงเวลา
พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้สบาย อย่านอนดึก
3.พบแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
หลายครั้งแม้ท่านจะพยายามดูแลตนเองอย่างเต็มที่แล้ว แต่อาการก็ยังไม่หายสักที ทั้งนี้อาจเป็นเพราะบางสาเหตุ เช่น ติดเชื้อในกระเพาะ จำเป็นต้องส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนบนเพื่อหาสาเหตุ และทำการรักษาที่สาเหตุนั้นอย่างตรงจุด หรือ แพทย์อาจแนะนำยาที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในการรักษา ช่วยให้ท่านหายจากหายจากอาการที่เป็นอยู่ได้เร็วขึ้นนั่นเอง
หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติมหรือต้องการคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ กรุณาติดต่อคลินิกของเราได้ที่
คลินิกหมอเมธัส โทร : 082-656-3726 facebook : คลินิกหมอเมธัส สงขลา